การเลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้องเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว แอร์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปจะกินไฟมากกว่าที่จำเป็น ในขณะที่แอร์ที่มีขนาดเล็กเกินไปก็จะไม่สามารถทำความเย็นได้ทั่วถึง ดังนั้น ก่อนที่จะซื้อแอร์ คุณควรคำนวณ BTU แอร์ให้เหมาะกับขนาดห้องของคุณเสียก่อน
BTU คืออะไร ?
BTU หรือ British Thermal Unit เป็นหน่วยวัดความสามารถในการเย็นหรือเครืองปรับอากาศ โดยความสามารถนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง เมื่อคุณคำนวณ BTU แอร์จากขนาดห้องอย่างถูกต้อง คุณจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งานได้อย่างมาก
วิธีคำนวณ BTU แอร์จากขนาดห้อง
วิธีการคำนวณ BTU แอร์จากขนาดห้องมีดังนี้
- วัดขนาดห้องเป็นตารางเมตร (กว้าง x ยาว)
- คูณขนาดห้องด้วย 600 เพื่อหาค่า BTU ที่ต้องการ
ตัวอย่างเช่น ห้องขนาด 3 x 4 เมตร จะมีพื้นที่ 12 ตารางเมตร ดังนั้นจะต้องใช้แอร์ที่มีขนาด 12 x 600 = 7,200 BTU
ปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกแอร์
นอกจากขนาดห้องแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกแอร์ ได้แก่
- ทิศทางของห้อง ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกจะได้รับแสงแดดมากกว่าห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ ดังนั้นจึงต้องใช้แอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่า
- จำนวนคนที่อยู่ในห้อง ห้องที่มีคนอยู่เยอะจะต้องใช้แอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องที่มีคนอยู่น้อย
- เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น คอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ จะปล่อยความร้อนออกมา ดังนั้นจึงต้องใช้แอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าหากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ในห้อง
เคล็ดลับการประหยัดไฟจากการใช้แอร์
- ตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 25-26 องศาเซลเซียส
- ปิดแอร์เมื่อออกจากห้อง
- ใช้พัดลมร่วมกับแอร์เพื่อช่วยกระจายความเย็น
- ติดตั้งผ้าม่านหรือมู่ลี่เพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอก
- ตรวจสอบและล้างแอร์เป็นประจำเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น การเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับขนาดห้องไม่ใช่เรื่องยาก และมันสำคัญมากสำหรับการประหยัดทั้งค่าไฟ และสุขภาพของเรา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือไม่ การคำนวณ BTU แอร์จากขนาดห้องไม่ใช่เรื่องยากและสำคัญมากในช่วงฤดูร้อนให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น